ยุทธการดึงมวลชน

คมชัดลึก : สิ้นเสียงปืนและความตายที่เกิดขึ้นในมัสยิดอัลฟุรกอน จ.นราธิวาส งานหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับการสืบหากลุ่มคนร้าย คือ ปฏิบัติการด้านงานข่าว แม้แต่กลุ่มก่อการร้ายเองก็ใช้จิตวิทยาดึงมวลชน ด้วยการปล่อยข่าวลือว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐออกมาพร้อมๆ กัน ดังนั้น รัฐเองก็ต้องสยบข่าวที่ว่านี้ พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในพื้นที่ ไม่เฉพาะ จ.นราธิวาส แต่ยังครอบคลุมไปถึง จ.ยะลา และปัตตานี ด้วย
เวลานี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รวมไปถึงผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน เอาเป็นว่าทุกๆ คนมีส่วนต่อการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยกันทั้งสิ้น การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดระแวง จะให้เชื่อใจใครง่ายๆ นั้นเป็นเรื่องยาก และจะยากยิ่งกว่าหากว่าเกิดจากการบังคับขู่เข็ญจนเกิดความหวาดกลัวให้เชื่อ
สำหรับตัวผมแล้วมีความเชื่อมั่นในสิ่งหนึ่ง นั่นคือ "ความจริงใจ" แม้จะไม่ใช่แก้วสารพัดนึกดลบันดาลให้ได้ทุกอย่างตามที่มุ่งหวัง
แต่ถ้าเรา ขอย้ำว่าเรา ซึ่งไม่ได้หมายรวมเฉพาะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงเท่านั้น แต่หมายถึงคนไทยทุกคน มีความจริงใจ และมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แล้วชาวบ้านเล็งถึงความ "จริงใจ" ที่ได้รับ อาจจะเป็นนิมิตหมายที่ดีของการเริ่มต้นในสิ่งต่างๆ
ในขณะที่กลุ่มก่อการร้ายใช้ความรุนแรงและกระบอกปืนจี้บังคับให้เชื่อว่า เจ้าหน้าที่รัฐเป็นฝ่ายตรงข้าม ขาดความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ตรงกันข้ามเราใช้ความจริงใจที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม มอบให้ด้วยไมตรีในฐานะปุถุชน ไม่ใช่ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐพึงมีต่อชนชั้นใต้ปกครอง อะไรจะส่งผลดีกว่ากัน
ชาวบ้านจะเลือกเชื่อใครมากกว่า !?!
แม้จะไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ แต่ทุกคนคงจำได้ดี เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ขบวนการเสรีไทยเกิดขึ้นเพราะอะไร หากไม่ใช่ทนการบีบบังคับจากกองทัพญี่ปุ่นไม่ได้ จึงลักลอบติดต่อกับพันธมิตร กระทั่งญี่ปุ่นแพ้สงครามในที่สุด
ผมหวังว่าในสงครามมวลชนและยุทธการดึงมวลชนครั้งนี้ เราจะเป็นฝ่ายกำชัยชนะ ความสุขสงบจะได้กลับคืนสู่อ้อมอกของชาวบ้านเสียที
ขอพระเจ้าคุ้มครอง !?!

Related Posts